top of page

How to: ดูแลรักษาอินเวอร์เตอร์ในบ้านคุณ

  • Writer: Brighten Generation
    Brighten Generation
  • Jun 25
  • 1 min read

หัวใจสำคัญของระบบโซลาร์เซลล์ ไม่ว่าจะเป็นบนหลังคาบ้านหรือโรงงานอุตสาหกรรม คือ "อินเวอร์เตอร์ (Inverter)" และ "ระบบควบคุม (Controller)" อุปกรณ์เหล่านี้ทำหน้าที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ผลิตได้ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงบริหารจัดการการไหลของพลังงานทั้งหมดในระบบ


การดูแลรักษาอินเวอร์เตอร์และระบบควบคุมอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้ระบบโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีความปลอดภัย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่ากับการลงทุน


On-Grid Inverter vs. Hybrid Inverter

แม้จะมีบทบาทหลักในการแปลงไฟฟ้าเหมือนกัน แต่อินเวอร์เตอร์ทั้งสองประเภทนี้มีความสามารถและโครงสร้างการทำงานที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

คุณสมบัติ

On-Grid Inverter

Hybrid Inverter (ไฮบริด)

การเชื่อมต่อ

เชื่อมต่อโดยตรงกับโครงข่ายการไฟฟ้าฯ เท่านั้น

เชื่อมต่อได้ทั้งโครงข่ายการไฟฟ้าฯ และ แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน

ฟังก์ชันหลัก

แปลงไฟฟ้า DC จากแผงโซลาร์เป็น AC เพื่อใช้ในบ้านและส่งคืนโครงข่าย

แปลงไฟฟ้า DC จากแผงโซลาร์เป็น AC, จัดการการชาร์จ/จ่ายไฟของแบตเตอรี่, สามารถจ่ายไฟสำรองได้

การทำงานเมื่อไฟดับ

หยุดทำงานทันที เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และป้องกันระบบเสียหาย (Anti-Islanding Protection)

สามารถจ่ายไฟสำรอง ให้กับโหลดที่สำคัญได้จากแบตเตอรี่และ/หรือแผงโซลาร์ (Backup Mode)

การบริหารจัดการพลังงาน

เน้นการใช้ไฟจากโซลาร์และส่งคืนโครงข่าย

จัดการได้ซับซ้อนกว่า: ใช้เอง, ชาร์จแบตเตอรี่, ขายคืนโครงข่าย (ถ้ามี), ใช้ไฟสำรอง

ความซับซ้อนของระบบ

ค่อนข้างตรงไปตรงมา

ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย เนื่องจากต้องจัดการแบตเตอรี่และโหมดการทำงานที่หลากหลาย

ต้นทุน

ต่ำกว่า

สูงกว่า (เนื่องจากมีฟังก์ชันการทำงานและเทคโนโลยีที่ซับซ้อนกว่า)

จะเห็นได้ว่า Hybrid Inverter มีความสามารถที่เหนือกว่าในการจัดการพลังงานและมอบความยืดหยุ่น รวมถึงความมั่นคงทางพลังงานที่มากกว่า โดยเฉพาะฟังก์ชันการสำรองไฟยามฉุกเฉิน ซึ่ง On-Grid Inverter ไม่สามารถทำได้


การดูแลรักษาอินเวอร์เตอร์:

ในหลักการพื้นฐานของการดูแลรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนวทางโดยรวมไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ Hybrid Inverter อาจมี จุดที่ต้องให้ความสำคัญเพิ่มเติม เล็กน้อย เนื่องจากมีส่วนที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ และมีโหมดการทำงานที่หลากหลายกว่า


การดูแลรักษาโดยทั่วไป (ใช้ได้กับทั้ง On-Grid และ Hybrid Inverter)

  1. การตรวจสอบด้วยสายตาอย่างสม่ำเสมอ:

    • ความสะอาด: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Inverter สะอาด ไม่มีฝุ่น สิ่งสกปรก หรือรังนก/แมลงเกาะแน่น ซึ่งอาจขัดขวางการระบายความร้อน

    • ช่องระบายอากาศ: ตรวจสอบว่าช่องระบายอากาศของ Inverter ไม่มีอะไรอุดตัน การระบายความร้อนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน

    • สายไฟและการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบสายไฟทั้งหมด (AC และ DC) ว่าไม่มีร่องรอยการชำรุด ฉีกขาด หรือการเชื่อมต่อที่หลวม หรือมีรอยไหม้

    • สภาพแวดล้อม: ตรวจสอบว่า Inverter ไม่ได้ถูกติดตั้งในบริเวณที่มีความชื้นสูง มีแสงแดดส่องถึงโดยตรงตลอดเวลา หรือใกล้แหล่งความร้อนอื่นๆ มากเกินไป


  2. การตรวจสอบประสิทธิภาพผ่านแอป/หน้าจอ:

    • ตรวจสอบสถานะการทำงาน: หมั่นตรวจสอบสถานะการทำงานของ Inverter ผ่านแอปพลิเคชัน (เช่น MySigen App สำหรับ Sigenergy) หรือหน้าจอแสดงผลของ Inverter

    • การผลิตไฟฟ้า: เปรียบเทียบปริมาณการผลิตไฟฟ้าในแต่ละวัน/เดือน กับข้อมูลย้อนหลัง หรือประมาณการที่คาดไว้ หากมีการลดลงอย่างผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงปัญหา

    • ข้อผิดพลาด/แจ้งเตือน (Error Codes/Alarms): หากมีข้อความแจ้งเตือนหรือรหัสข้อผิดพลาดปรากฏขึ้น ให้บันทึกไว้และรีบปรึกษาผู้ติดตั้งหรือผู้เชี่ยวชาญ


  3. การทำความสะอาด (ตามความเหมาะสม):

    • ใช้ผ้าแห้งหรือแปรงขนนุ่มปัดฝุ่นภายนอก (ควรปิดระบบก่อน)

    • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหรือสารเคมีทำความสะอาดโดยตรงกับตัวเครื่อง


การดูแลรักษาเพิ่มเติมสำหรับ Hybrid Inverter (เน้นเรื่องแบตเตอรี่)

  1. การตรวจสอบแบตเตอรี่:

    • สถานะแบตเตอรี่ (SOC): ตรวจสอบระดับประจุของแบตเตอรี่ผ่านแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่มีการชาร์จและจ่ายไฟตามปกติ

    • อุณหภูมิแบตเตอรี่: ระบบ Hybrid ที่ดีจะมีฟังก์ชันตรวจสอบอุณหภูมิแบตเตอรี่ หากพบอุณหภูมิสูงผิดปกติ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

    • การจัดเก็บแบตเตอรี่: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ถูกติดตั้งในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี อุณหภูมิเหมาะสม และพ้นจากแสงแดดโดยตรง เพื่อยืดอายุการใช้งาน (แบตเตอรี่บางรุ่น เช่น Sigenergy SigenStor มีระบบจัดการความร้อนในตัว ซึ่งช่วยให้ดูแลรักษาง่ายขึ้น)


  2. การทดสอบระบบสำรองไฟ (ถ้ามีฟังก์ชันนี้):

    • อาจมีการทดสอบฟังก์ชัน Backup Mode เป็นครั้งคราว (ตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือผู้ติดตั้ง) เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะทำงานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดไฟดับจริง

    • ข้อควรระวัง: การทดสอบควรทำอย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคู่มือ


  3. การตรวจสอบการเชื่อมต่อและโหมดการทำงาน:

    • ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันว่า Inverter ยังคงเชื่อมต่อกับโครงข่ายการไฟฟ้าฯ และ/หรือแบตเตอรี่เป็นปกติ

    • ตรวจสอบว่าโหมดการทำงานของระบบ (เช่น Self-Consumption, Backup Priority) ยังคงเป็นไปตามที่คุณตั้งค่าไว้


การบำรุงรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ (Professional Maintenance)

แม้จะดูแลเองเป็นประจำ แต่การเรียกผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้

  • การตรวจสอบจุดเชื่อมต่อไฟฟ้า: ตรวจสอบความแน่นหนาของน็อตและสายไฟทั้งหมดเพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟหรือความร้อนสูงเกินไป

  • การตรวจสอบระบบป้องกัน: ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (SPD), เบรกเกอร์ (MCB/MCCB)

  • การตรวจสอบประสิทธิภาพเชิงลึก: ผู้เชี่ยวชาญจะมีเครื่องมือเฉพาะทางในการวัดค่าต่างๆ เพื่อประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ

  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์: ผู้ติดตั้งสามารถช่วยอัปเดตเฟิร์มแวร์ของ Inverter และ Controller ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งอาจมีการเพิ่มประสิทธิภาพหรือแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ

  • การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน: หากมีปัญหาที่แก้ไขเองไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวินิจฉัยและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง


อินเวอร์เตอร์และระบบควบคุมเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ระบบโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การดูแลรักษาที่ถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดโอกาสเกิดปัญหา และทำให้การลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ของคุณคุ้มค่าอย่างแท้จริง!


สนใจสินค้าและบริการจาก Brighten Generation สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย!

โทร. 082-650-7659

Comentarios


© 2025 Brighten Generation Co., Ltd. 

bottom of page